7/26/2009

ขอความคิดเห็น

อยากทราบว่าเพื่อนๆ ที่เข้ามาเยี่ยมชมบล็อกนี้ แล้วอยากรู้เรื่องอะไรกันบ้าง หรือว่าจุดประสงค์ของการเรียน ภาษาจีน ของเพื่อนๆ แต่ละคนคืออะไร ช่วยเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันหน่อยนะคะ หลี จะได้หาเนื้อหามาเพิ่มเติมให้ จะได้พัฒนาภาษาจีน ไปพร้อมๆ กันค่ะ

7/19/2009

邮局 ที่ทำการไปรษณีย์์

ไม่ได้อัพเดทมาหลายวันเลย แล้วก็ไม่รู้จะเอาเนื้อหาอะไรมาใส่ เลยแอบแฮปข้อมูลจากเว็บตัวเองมาลงซะเนี่ย ก็เพราะคิดไม่ออกจริงๆ แถมยังยุ่งอยู่กับการหาข้อมูลมาใส่ในเว็บให้มีเนื้อหามากๆ แต่ก็คงไม่เป็นไร เพราะจะเอาแค่คำศัพท์มาใส่เท่านั้นแหละ ส่วนบทสนทนาเดี๋ยวคิดใหม่ทำใหม่

邮局(yóujú) ที่ทำการไปรษณีย์
邮票(yóupiào) แสตมป์
明信片(míngxìnpiàn) ไปรษณียบัตร
寄(jì) ส่ง
往(wǎng)........寄(jì) ส่งไปยัง.........
信(xìn) จดหมาย
封(fēng) ซอง(ลักษณะนาม),ฉบับ
信封(xìnfēng) ซองจดหมาย
包裹(bāoguǒ) พัสดุ
电子邮件(diànzǐyóujiàn) อีเมลล์
收发(shōufā) รับส่ง (อีเมลล์)
一共(yígòng) ทั้งหมด

ยุคสมัยนี้แล้วหากใครยังส่งจดหมายอยู่คงถูกหาว่าเชย แต่ยังไงรู้คำศัพท์ไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ เพราะสิ่งที่เราต้องการคือเรียนรู้ภาษาจีน เราก็กลัวเชยเหมือนกันนะเลยแถมคำศัพท์ทิ้งท้ายไว้ให้กันเชยด้วยสองคำ อย่ามัวแต่ห่วงเรื่องเชยไม่เชยเลย เรามาแต่งบทสนทนา ภาษาจีน จากศัพท์ด้านบนกันเถอะ

A : 请问,往泰国寄的信,要贴多少钱的邮票?ถามหน่อยค่ะ จดหมายที่ส่งไปยังประเทศไทย ต้องติดแสตมป์ราคาเท่าไรค่ะ
B : 四块。还要什么吗?สี่เหรียญ ยังต้องการอะไรมั้ย
A : 我还要买两张明信片。ฉันยังต้องการซื้อไปรษณียบัตรสองใบ
B : 一共八块。ทั้งหมดแปดเหรียญ

张 ใบ, แผ่น (ลักษณะนาม) ภาษาจีนนั้นมีลักษณะนามอยู่มากมาย ซึ่งก็คล้ายกับภาษาไทยที่มีลักษณะนามและการใช้ที่ต่างออกไป เช่น สมุดหนังสือ ก็ใช้ว่าเล่ม 本 เป็นต้น

การวางลักษณะนามใน ภาษาจีน จะต่างกับภาษาไทย ตรงที่ภาษาจีน จะวางจำนวนและลักษณะนามไว้ข้างหน้า อย่างเช่นตัวอย่างบทสนทนา ไปรษณียบัตรสองใบ ในภาษาจีนพูดว่า (สองใบไปรษณียบัตร) 两张明信片,หรือถ้าต้องการพูดว่าหนังสือสองเล่ม ก็ต้องเป็น 两本书 เวลาใช้ก็อย่าสับสนนะค่ะ

จริงคำศัพท์เกี่ยวกับที่ไปรษณีย์ยังมีอีกมากมาย แต่สำหรับผู้ที่เริ่มเรียนขั้นพื้นฐานหากให้จำเยอะ คงจะเบื่อและไม่อยากจำกันแน่ๆ จึงนำมาเสนอเพียงเท่านี้ก่อน ถ้ามีเวลาจะเอามาฝากอีกค่ะ


7/14/2009

การถามอายุ

ในภาษาจีน หากต้องการถามอายุ เราต้องดูบุคคลที่เรากำลังจะถามด้วยว่าเป็นเด็ก เป็นคนในวัยเดียวกันกับเรา หรือว่าเป็นผู้สูงอายุ เพราะการถามอายุกับบุคคลที่มีวัยต่างกัน คำถามก็จะต่างกัน

  • 几(jǐ) กี่
  • 岁(suì) ขวบ, ปี
  • 多大(duōdà) (อายุ) เท่าไร
  • 年纪(niánjì) อายุ

การถามอายุเด็ก

你几岁?คุณกี่ขวบ

我八岁。ฉันแปดขวบ

การถามอายุของวัยรุ่น เพื่อน วัยทำงาน หรือบุคคลในรุ่นเดียวกัน

你多大?คุณอายุเท่าไร

我二十八。ฉันยี่สิบแปด

การถามอายุของผู้อาวุโส หรือบุคคลที่มีอายุมากแล้ว

您多大年纪?ท่านอายุเท่าไร

我六十五。ฉันหกสิบห้า

การถามอายุของผู้สูงอายุนั้นจะต้องใส่ 年纪 เพื่อเป็นการแสดงความเคารพ และการให้เกียรติ

7/10/2009

คุณทำงานอะไร

หลังจากที่ได้นอกเรื่องมาหลายต่อหลายเรื่อง ก็เริ่มหาสาระให้ตัวเองบ้างโดยวันนี้เราจะมาเรียนเรื่องการถาม-ตอบอาชีพการงานกัน ลองมาดูกันว่าอาชีพต่างๆ ในภาษาจีน เราสนใจอาชีพไหนกันบ้าง

工作(gōngzuò) งาน, ทำงาน

你做什么工作?คุณทำงานอะไร
我是……………。ฉันเป็น..... / ฉันคือ...... <เลือกอาชีพตามที่ตัวเองชอบและสนใจได้ตามสบายเลยค่ะ>

老师(lǎoshī) ครู, อาจารย์
律师(lǜshī) ทนายความ
工程师(gōngchéngshī) วิศวกร
设计师(shèjìshī) นักออกแบบ
建筑师(jiànzhùshī) สถาปนิก
会计师(kuàijìshī) นักบัญชี
药剂师(yàojìshī) เภสัชกร
摄影师(shèyǐngshī) ช่างภาพ
理发师(lǐfàshī) ช่างทำผม
作家(zuòjiā) นักเขียน, นักประพันธ์
画家(huàjiā) จิตรกร
漫画家(mànhuàjiā) นักเขียนการ์ตูน
翻译家(fānyìjiā) นักแปล
音乐家(yīnyuèjiā) นักดนตรี
科学家(kēxuéjiā) นักวิทยาศาสตร์
政治家(zhèngzhìjiā) นักการเมือง
歌手(gēshǒu) นักร้อง
经理(jīnglǐ) ผู้จัดการ
总理(zǒnglǐ) นายกรัฐมนตรี
记者(jìzhě) นักข่าว
医生(yīshēng) หมอ, แพทย์
牙医(yáyī) ทันตแพทย์
护士(hùshi) พยาบาล
农民(nóngmín) ชาวนา, เกษตรกร
牧民(mùmín) ปศุกร
渔民(yúmín) ชาวประมง
商人(shāngrén) นักธุรกิจ
编辑(biānjí) บรรณาธิการ
警察(jǐngchá) ตำรวจ
士兵(shìbīng) ทหาร
法官(fǎguān) ผู้พิพากษา
外交官(wàijiāoguān) เจ้าหน้าที่การทูต
总统(zǒngtǒng) ประธานาธิบดี
秘书(mìshū) เลขานุการ
售货员(shòuhuòyuán) พนักงานขาย
服务员(fúwùyuán) พนักงานบริการ
公务员(gōngwùyuán) พนักงานรัฐ, ข้าราชการ
公司职员(gōngsīzhíyuán) พนักงานบริษัท

7/01/2009

แนะแนวการเรียน ภาษาจีน

ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคนก่อนนะคะ ที่ยอมเสียเวลาในการเข้ามาเยี่ยมชมบล็อก ถ้ามีตรงไหนสงสัยหรือต้องการให้แนะแนวเพิ่มเติม ก็เสนอความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะคะ ซึ่งถ้ารู้ก็จะช่วยตอบให้ ส่วนที่ไม่รู้ก็จะหามาให้ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ การจะเรียนภาษาจีนให้ได้ผล ต้องกล้าถามค่ะ

ครั้งนึงตอนที่เรียนก็ไม่กล้าถามเหมือนกันค่ะ ไม่เข้าใจอะไรก็เก็บเอาไว้ ทำให้ภาษาจีน พัฒนาได้อย่างช้ากว่าที่ควรจะเป็น ส่วนหนึ่งคงเป็นนิสัยคนไทยด้วยค่ะ ที่ขี้อาย จุดนี้เราเข้าใจดี จึงอยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ ทุกอย่างต้องมีครั้งแรกนะค่ะ ครั้งต่อๆ ไปจึงจะตามมา

บล็อกนี้จะเน้นผู้เรียนที่เพิ่งเริ่มเรียนระดับพื้นฐานนะค่ะ ส่วนผู้ที่พอจะอ่านภาษาจีนออกหรือต้องการหาความรู้เพิ่มเติมก็เชิญได้ที่เว็บเลยค่ะ http://www.lovechineseclub.com/ ทำมาได้ประมาณสองอาทิตย์แล้วค่ะ เนื้อหายังไม่มากเท่าไหร่ แต่พยายามจะนำมาใส่ไว้เรื่อยๆค่ะ